สรุปข่าวเช้านี้ วันที่ 7 พฤษภาคม 2568

🗽 US

Dow Jones -390.14 จุด (-0.95%)

S&P 500 -43.54 จุด (-0.77%)

NASDAQ -154.58 จุด (-0.87%)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันอังคาร (6 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้ออกมาส่งสัญญาณที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับช่วงเวลาในการทำข้อตกลงการค้ากับบรรดาประเทศคู่ค้า ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ (7 พ.ค.) ตามเวลาสหรัฐฯ

EU EURO

EURO STOXX 600 -0.96 จุด (-0.18%)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันอังคาร (6 พ.ค.) โดยยุติการปรับขึ้นติดต่อกัน 10 วัน ท่ามกลางความไม่แน่นอนเรื่องมาตรการภาษีที่กดดันตลาด ขณะที่นักลงทุนยังคงติดตามดูนโยบายการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ที่คาดเดาได้ยาก

JP JAPAN

NIKKEI 225

ปิดทำการเนื่องในวันสีเขียว

CN CHINA

Shanghai Composite +37.08 จุด (1.13%)

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดบวกในวันนี้ (6 พ.ค.) แตะที่ระดับสูงสุดในรอบหนึ่งเดือน โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีมุมมองบวกเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ถึงแม้ขณะนี้จะยังไม่มีความคืบหน้าก็ตาม

HK Hong Kong

Hang Seng +158.03 จุด (0.70%)

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดบวกในวันนี้ (6 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของฮ่องกงที่ขยายตัวแข็งแกร่งในไตรมาส 1/2568

CI INDIA

S&P BSE Sensex -155.77 (-0.19%)

ดัชนี Sensex ตลาดหุ้นอินเดียร่วงลงกว่า 100 จุด ขณะที่นักลงทุนพากันส่งแรงขายทำกำไรเข้าตลาด ท่ามกลางความกังวลต่อปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์ หลังเกิดความตึงเครียดระหว่างอินเดียและปากีสถาน

VN VIETNAM

VN -0.75 จุด (-0.06%)

สำนักงานสถิติแห่งชาติของเวียดนามเปิดเผยในวันนี้ (6 พ.ค.) ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดการเปลี่ยนแปลงราคาที่ผู้บริโภคจ่ายสำหรับสินค้าและบริการ เพิ่มขึ้น 3.2% เมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้

ดัชนี CPI ของเวียดนามเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 0.07% เมื่อเทียบกับเดือนมี.ค. และเพิ่มขึ้น 3.12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในเดือนเม.ย. ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น 8 หมวดจาก 11 หมวดหมู่สินค้าที่ใช้ในการคำนวณดัชนี CPI โดยการเพิ่มขึ้นของราคาที่อยู่อาศัย วัสดุก่อสร้าง และค่าไฟฟ้า มีส่วนทำให้ดัชนี CPI เพิ่มขึ้นมากที่สุด

นอกจากนี้ สำนักงานสถิติระบุว่า ในช่วงเดือนม.ค.-เม.ย. ปี 2568 อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยของเวียดนามเพิ่มขึ้น 3.05% เมื่อเทียบเป็นรายปี

TH THAILAND

SET -11.12 จุด (-0.93%)

SET ปิดวันนี้ที่ 1,187.86 จุด ลดลง 11.12 จุด (-0.93%) มูลค่าซื้อขาย 43,619.94 ล้านบาท

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับลง ปัจจัยกดดันจากหุ้นพลังงานเผชิญแรงขายออกมาหลังราคาน้ำมันตลาดโลกปรับลงมาใกล้ 50 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ประกอบกับมีแรงขายหุ้นกลุ่มเกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวออกมาทั้ง AOT AAV AWC จากภาพนักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอตัวกดดัน

ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจไทยส่งสัญญาณชะลอตัวชัดเจนขึ้นเมื่อเงินเฟ้อเดือนเม.ย.พลิกกลับมาหดตัวเป็นครั้งแรก และหดตัวมากกว่าคาด ทำให้กลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศมีแรงขายออกมา เช่น CPALL HMPRO เป็นอีกปัจจัยกดดันดัชนี

⛽️ น้ำมัน WTI

$ 59.09 +1.96 (+3.43%)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 3% ในวันอังคาร (6 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหลายปัจจัย ซึ่งรวมถึงสัญญาณที่บ่งชี้ว่าอุปสงค์ในจีนฟื้นตัวขึ้น การผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ ปรับตัวลง และสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนช้อนซื้อหลังจากราคาดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี

ราคาน้ำมันได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่า ผู้บริโภคชาวจีนมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในช่วงวันหยุดเนื่องในวันแรงงานระหว่างวันที่ 1-5 พ.ค. ขณะเดียวกันนักลงทุนจากจีนได้กลับเข้าสู่ตลาดแล้วในเวลานี้ หลังจากผ่านพ้นช่วงวันหยุดดังกล่าว

ตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากรายงานที่ว่า บริษัทพลังงานหลายแห่งของสหรัฐฯ รวมถึงบริษัท Diamondback Energy และบริษัท Coterra Energy ได้ประกาศว่าจะลดจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันหลังจากเผชิญภาวะราคาน้ำมันที่ซบเซาลง ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะทำให้การผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ ปรับตัวลง และจะเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน

🪙 Gold

$ 3,422.80 +100.50 $ (+3.03%)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 3% ในวันอังคาร (6 พ.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนจีนกลับเข้าซื้อทองคำหลังจากผ่านพ้นช่วงวันหยุดยาว ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งจะมีการแถลงในวันนี้ (7 พ.ค.) ตามเวลาสหรัฐฯ รวมทั้งถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด

Source: CNBC , IQ