สรุปข่าวเช้านี้ วันที่ 3 กรกฎาคม 2568

🗽 US

Dow Jones -10.52 จุด (-0.02%)

S&P 500 +29.41 จุด (+0.47%)

NASDAQ +190.24 จุด (+0.94%)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยในวันพุธ (2 ก.ค.) หลังมีรายงานว่าตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ ปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้ปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และข่าวการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างเวียดนามและสหรัฐฯ

EURO

EURO STOXX 600 +0.96 จุด (+0.18%)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (2 ก.ค.) นำโดยกลุ่มหุ้นพลังงานหมุนเวียน หลังจากร่างงบประมาณฉบับปรับปรุงของสหรัฐฯ ผ่านการลงคะแนนเสียงครั้งสำคัญ ขณะที่นักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวด้านการค้าก่อนเส้นตายวันที่ 9 ก.ค. ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐฯ

JAPAN

NIKKEI 225 -223.85 จุด (-0.56%)

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบในวันนี้ (2 ก.ค.) จากแรงกดดันและความกังวลต่อผลกระทบทางเศรษฐกิจ อันเนื่องมาจากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้เปรยถึงแนวคิดที่จะปรับขึ้นอัตราภาษีศุลกากรสำหรับสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่นเพิ่มเติม

SOUTH KOREA

KOSPI -14.59 จุด (-0.47%)

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดลบในวันนี้ (2 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นเพื่อทำกำไรหลังตลาดปรับตัวขึ้นในช่วงที่ผ่านมาท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ

CHINA

Shanghai Composite -2.96 จุด (-0.09%)

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดลบในวันนี้ (2 ก.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และจากการที่นักลงทุนเทขายกำไร ท่ามกลางความไม่แน่นอนด้านนโยบาย

Hong Kong

Hang Seng +149.13 จุด (+0.62%)

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดบวกในวันนี้ (2 ก.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากข้อมูลจ้างงานสหรัฐฯ ที่ออกมาในเชิงบวก ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังขานรับสก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ที่คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ซึ่งสอดคล้องกับข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ต้องการให้ผ่อนคลายนโยบายการเงิน

INDIA

S&P BSE Sensex -287.60 จุด (-0.34%)

ดัชนี Sensex ตลาดหุ้นอินเดียร่วงลงกว่า 200 จุด ขณะที่นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวัง ก่อนการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และก่อนเส้นตายในการเจรจาการค้ากับสหรัฐในวันที่ 9 ก.ค.

VIETNAM

VN +6.60 จุด (+0.45%)

สำนักข่าวเวียดนามรายงานว่า นายโต เลิม เลขาธิการใหญ่คณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ในวันนี้ โดยได้แสดงความยินดีต่อการที่เวียดนามสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐ

ทั้งนี้ สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้าจากเวียดนามในอัตรา 20% หลังจากที่ก่อนหน้านี้สหรัฐขู่เรียกเก็บภาษีดังกล่าวสูงถึง 46%

อย่างไรก็ดี สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้าจากเวียดนามในอัตรา 40% หากพบว่าสินค้าดังกล่าวมีการสวมสิทธิ์จากต่างประเทศ โดยเป็นสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากประเทศอื่น ก่อนที่จะส่งเข้ามายังเวียดนามเพื่อทำการส่งออกต่อไปยังสหรัฐ

นอกจากนี้ ข้อตกลงระบุว่า เวียดนามจะเปิดตลาดอย่างเสรีให้แก่สินค้าจากสหรัฐ โดยสหรัฐสามารถส่งออกสินค้าไปยังเวียดนามโดยไม่ต้องเสียภาษีศุลกากรแต่อย่างใด หรืออีกนัยหนึ่ง เวียดนามจะเรียกเก็บภาษีศุลกากร 0% ต่อสินค้าที่นำเข้าจากสหรัฐ

ทั้งนี้ เวียดนามสามารถบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐ ก่อนถึงเส้นตายสำหรับการเจรจาในวันที่ 9 ก.ค.

THAILAND

SET +5.68 จุด (+0.51%)

SET ปิดวันนี้ที่ 1,115.69 จุด เพิ่มขึ้น 5.68 จุด (+0.51%) มูลค่าซื้อขาย 34,958.34 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ ระบุ ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับขึ้นมาได้หลังภาพการเมืองชัดเจนขึ้น รัฐบาลยังเดินหน้าทำงานต่อได้แม้ น.ส.แพทองธาร หยุดปฎิบัติหน้าที่ โดยมีรักษาการนายกฯ เข้ามาผลักดันมาตรการภาครัฐและงบประมาณปี 69 ขณะที่ตลาดยังได้แรงหนุนจากการเจรจาการค้าสหรัฐคืบหน้า รวมถึงคาดหวังเฟดลดดอกเบี้ย แนวโน้มวันพรุ่งนี้รอปัจจัยใหม่หนุน แนะติดตามปัจจัยจากฝั่งสหรัฐ ให้กรอบแนวต้าน 1,125 จุด แนวรับ 1,105 จุด

⛽️ น้ำมัน WTI

67.45 ดอลลาร์/บาร์เรล +2.00 เซนต์ (+3.06%)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (2 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากข่าวอิหร่านประกาศระงับความร่วมมือกับทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) รวมทั้งการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างเวียดนามและสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันลดช่วงบวกหลังสหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นสวนทางกับการคาดการณ์

🪙 Gold

3,359.70 ดอลลาร์/ออนซ์ +9.90 ดอลลาร์ (+0.30%)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (2 ก.ค.) หลังมีรายงานว่าตัวเลขจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐฯ ปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 2 ปี ซึ่งทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าการชะลอตัวของการจ้างงานอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ ในวันนี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางนโยบายการเงินของเฟด

Source: CNBC , IQ