สรุปข่าวเช้านี้ วันที่ 25 มีนาคม 2568

🗽 US

Dow Jones +597.97 จุด (+1.42%)

S&P 500 +100.01 จุด (+1.76%)

NASDAQ +404.54 จุด (+2.27%)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันจันทร์ (24 มี.ค.) หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่ารัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ จะใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariff) แบบเจาะจงเป้าหมาย มากกว่าที่จะบังคับใช้เป็นวงกว้าง ซึ่งทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า

ดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นเกือบ 600 จุด และดัชนี S&P500 ปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณว่าปธน.ทรัมป์อาจใช้ความยืดหยุ่นในการดำเนินนโยบายการค้า ซึ่งจะช่วยหลีกเลี่ยงการทำสงครามการค้าเป็นวงกว้าง และจะช่วยให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ รอดพ้นจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ดัชนี Russell 2000 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นกลุ่มบริษัทที่มีมาร์เก็ตแคปต่ำ พุ่งขึ้น 2.55% แตะระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ส่วนดัชนี CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ลดลง 9.34% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)

EU EURO

EURO STOXX 600 —0.74 จุด (-0.13%)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันจันทร์ (24 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงระมัดระวังในการซื้อขาย แม้มีความหวังเพิ่มขึ้นว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ อาจใช้แนวทางที่ผ่อนปรนมากขึ้นกับนโยบายภาษีศุลกากรในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้

JP JAPAN

NIKKEI 225 -57.56 (-0.15)

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบเล็กน้อยในวันนี้ (24 มี.ค.) ขณะที่นักลงทุนชะลอการซื้อขาย เนื่องจากความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแผนการขึ้นภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม โบรกเกอร์รายงานว่า หุ้นเริ่มย่อตัวลง เนื่องจากตลาดรอดูประกาศอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลทรัมป์ก่อน เพราะยังไม่มีความชัดเจนว่ามาตรการภาษีดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกอย่างไรบ้าง

"ในส่วนของภาษีศุลกากรสหรัฐฯ เรายังไม่ทราบรายละเอียดที่สำคัญ เช่น รายการสินค้าและประเทศที่จะได้รับผลกระทบ รวมถึงระยะเวลาที่จะมีผลบังคับใช้" คาซูโอะ คามิทานิ นักกลยุทธ์ในแผนกคอนเทนต์การลงทุนของบริษัทหลักทรัพย์โนมูระ กล่าว

 

CN CHINA

Shanghai Composite +5.20 จุด (+0.15%)

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดบวกในวันนี้ (24 มี.ค.) โดยดัชนีฟื้นตัวหลังจากที่ปิดลบติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มกลับเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง อย่างไรก็ดี นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่มาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย.นี้

นักลงทุนรอดูการเปิดเผยกำไรภาคอุตสาหกรรมประจำเดือนก.พ.ของจีนในวันพฤหัสบดีนี้ (27 มี.ค.) เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ทิศทางเศรษฐกิจจีน

HK Hong Kong

Hang Seng +215.84 จุด (+0.91%)

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดบวกในวันนี้ (24 มี.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ส่งสัญญาณ "ใช้ความยืดหยุ่น" ต่อแผนการเรียกเก็บภาษีตอบโต้ (Reciprocal tariff) ที่มีกำหนดบังคับใช้ในวันที่ 2 เม.ย. พร้อมเผยว่ามีแผนหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน หลังจากที่จีนประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ เพื่อตอบโต้สหรัฐฯ ที่เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน

ขณะเดียวกัน มีการคาดการณ์ว่าภาษีศุลกากรที่สหรัฐฯ จะเรียกเก็บเป็นรายอุตสาหกรรม เช่น ภาษีนำเข้ารถยนต์และเซมิคอนดักเตอร์นั้น มีแนวโน้มว่าจะไม่ประกาศใช้ในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ มีการคาดการณ์ว่าปธน.ทรัมป์จะประกาศใช้มาตรการภาษีแบบเจาะจงเป้าหมายมากกว่าที่จะบังคับใช้เป็นวงกว้างตามที่เคยขู่ไว้

CI INDIA

S&P BSE Sensex +1,078.87 จุด (+1.40%)

ดัชนี Sensex ตลาดหุ้นอินเดียพุ่งขึ้นกว่า 1,000 จุด แตะระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ และปรับตัวขึ้นเป็นวันทำการที่ 6 โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อของนักลงทุนต่างประเทศ

หุ้นกลุ่มธนาคารพุ่งขึ้นนำตลาด

VN VIETNAM

VN 30 +12.43 จุด (+0.90%)

TH THAILAND

SET +3.45 จุด (+0.29%)

SET ปิดวันนี้ที่ 1,190.06 จุด เพิ่มขึ้น 3.45 จุด (+0.29%) มูลค่าซื้อขาย 23,385.45 ล้านบาท

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานวิจัย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง (KTX) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวในกรอบ และสามารถปรับตัวขึ้นได้ แต่มูลค่าการซื้อขายยังค่อนข้างเบาบาง โดยที่มีปัจจัยหนุนมาจากปัจจัยภายนอกในประเด็นของท่าทีประธานาธิบดีสหรัฐในเรื่องการทำสงครามการค้าที่อาจจะมีความประนีประนอมและมีความยืดหยุ่นของนโยบายการค้ามากขึ้น ทำให้ตลาดผ่อนคลายกังวลในประเด็นดังกล่าวลงไปบ้าง และตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ก็ส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปัจจัยดังกล่าว

ขณะเดียวกันยังมีปัจจัยหนุนจากแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะหุ้นที่มีการประกาศซื้อหุ้นคืนอย่างบมจ.ปตท. (PTT) และแรงซื้อหุ้นในกลุ่มสื่อสารเข้ามาหนุนดัชนี ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยสามารถปรับตัวขึ้นมาได้ แม้ว่ายังไม่มีปัจจัยในประเทศใหม่ ๆ เข้ามา

⛽️ น้ำมัน WTI

$ 69.11 +0.69 (-1.16%)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (24 มี.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า เขาจะเรียกเก็บภาษีศุลกากรในอัตรา 25% จากประเทศที่ซื้อน้ำมันและก๊าซจากเวเนซุเอลา

ส่วนอีกปัจจัยที่สกัดแรงบวกของราคาน้ำมันคือรายงานที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีแนวโน้มที่จะดำเนินการตามแผนเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนพ.ค. รวมทั้งข่าวที่ว่าการเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครนยังคงดำเนินต่อไป ซึ่งอาจนำไปสู่การผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย และอาจทำให้อุปทานน้ำมันจากรัสเซียไหลเข้าสู่ตลาดโลกเพิ่มขึ้น

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ จากสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ในวันนี้ ก่อนที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลอย่างเป็นทางการในวันพุธ

🪙 Gold

$ 3,015.60 -41.84 (-0.19%)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (24 มี.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด ขณะเดียวกันนักลงทุนกำลังประเมินท่าทีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ที่ส่งสัญญาณใช้ความยืดหยุ่นในการดำเนินมาตรการภาษีศุลกากร

Source: CNBC , IQ