สรุปข่าวเช้านี้ วันที่ 18 เมษายน 2568

🗽 US

Dow Jones -527.28 จุด (-1.33%)

S&P 500 +6.94 จุด (+0.13%)

NASDAQ -20.71 จุด (-0.13%)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ในวันพฤหัสบดี (17 เม.ย.) โดยถูกกดดันจากการร่วงลงของหุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ (UnitedHealth) ซึ่งเป็นบริษัทประกันสุขภาพรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้ที่ต่ำกว่าคาด ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาความคืบหน้าในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่น

หุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ ดิ่งลง 22.38% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้ที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 1/2568 และได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์กำไรในปีงบการเงิน 2568 เนื่องจากคาดว่าต้นทุนทางการแพทย์มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นตลอดช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ ซึ่งการร่วงลงของหุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ได้ฉุดหุ้นบริษัทประกันสุขภาพรายอื่น ๆ ปรับตัวลงตามกัน โดยหุ้นซีวีเอส เฮลธ์ (CVS Health) ลดลง 1.84% และหุ้นฮิวมานา (Humana) ร่วงลง 7.4%

หุ้น 8 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้น 2.28% ตามด้วยหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคพุ่งขึ้น 2.18% ส่วนกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มเฮลธ์แคร์ปรับตัวลงมากที่สุด โดยลดลง 0.67% และ 0.64% ตามลำดับ

หุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปรายใหญ่ของสหรัฐฯ ร่วงลง 2.9% ซึ่งเป็นการดิ่งลงอย่างต่อเนื่องจากเมื่อวันพุธ หลังจากบริษัทเปิดเผยว่าการที่รัฐบาลสหรัฐฯ จำกัดการส่งออกชิป AI รุ่น H20 ไปยังประเทศจีนนั้น ทำให้บริษัทต้องบันทึกค่าใช้จ่ายสูงถึง 5.5 พันล้านดอลลาร์ในงบการเงินประจำไตรมาส

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการรายงานเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 9,000 ราย สู่ระดับ 215,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 225,000 ราย

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านลดลง 11.4% สู่ระดับ 1.324 ล้านยูนิตในเดือนมี.ค. และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.420 ล้านยูนิต

ตลาดหุ้นนิวยอร์กจะปิดทำการในวันนี้ (18 เม.ย.) เนื่องในวัน Good Friday ส่วนการซื้อขายตลอดทั้งสัปดาห์นี้ ดัชนี S&P500 ปรับตัวลงทั้งสิ้น 1.5% ดัชนี Nasdaq ร่วงลง 2.6% และดัชนีดาวโจนส์ ดิ่งลง 2.7%

EU EURO

EURO STOXX 600 -0.67 จุด (-0.13%)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี (17 เม.ย.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะที่นักลงทุนจับตาผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ เพื่อประเมินผลกระทบจากนโยบายการค้าที่ไม่แน่นอนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ

ECB ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 7 ในรอบ 1 ปี สู่ระดับ 2.25% เพื่อลดความกังวลและฟื้นฟูความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจที่ยังเปราะบาง ซึ่งได้รับผลกระทบจากภาษีการค้าระหว่างประเทศ และความไม่แน่นอนที่ฉุดการบริโภคและการลงทุน

ฤดูการรายงานผลประกอบการของบริษัทในยุโรปได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

นักวิเคราะห์ได้ปรับลดคาดการณ์ผลกำไรของบริษัทในยุโรปลง เนื่องจากสงครามภาษีตอบโต้กันได้ทำให้แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจโลกอ่อนแอลง และทำให้เกิดความผันผวนในตลาดที่คล้ายกับช่วงต้นของวิกฤตโควิด-19

JP JAPAN

NIKKEI 225 +457.20 จุด (+1.35%)

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นในวันนี้ (17 เม.ย.) โดยเงินเยนอ่อนค่าลงเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออก หลังจากที่ผู้แทนการเจรจาด้านภาษีศุลกากรของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ประเด็นอัตราแลกเปลี่ยนไม่ได้อยู่ในการหารือร่วมกับสหรัฐฯ

CN CHINA

Shanghai Composite +4.34 จุด (+0.13%)

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดบวกในวันนี้ (17 เม.ย.) หลังจากมีรายงานว่า จีนเปิดกว้างที่จะเข้าร่วมการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ โดยมีเงื่อนไขบางประการ

HK Hong Kong

Hang Seng +338.16 จุด (+1.61%)

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดพุ่งขึ้นในวันนี้ (17 เม.ย.) นำโดยหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และเทคโนโลยี ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์การค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด โดยมีรายงานว่า จีนเปิดกว้างที่จะเข้าร่วมการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ โดยมีเงื่อนไขบางประการ

CI INDIA

S&P BSE Sensex +1,508.91 จุด (+1.96%)

ดัชนี Sensex ตลาดหุ้นอินเดียพุ่งขึ้นกว่า 1,500 จุด ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน ขานรับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและญี่ปุ่นที่เป็นไปด้วยดี รวมทั้งได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อของนักลงทุนต่างประเทศ

หุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้นนำตลาดวันนี้

VN VIETNAM

VN +9.78 จุด (+0.76%)

TH THAILAND

SET +2.38 จุด (+0.21%)

SET ปิดวันนี้ที่ 1,141.28 จุด เพิ่มขึ้น 2.38 จุด (+0.21%) มูลค่าซื้อขาย 29,808.44 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยรีบาวด์เล็กน้อย-วอลุ่มบาง รับแรงซื้อกลุ่มแบงก์ปันผลงาม-Valuation ไม่แพง ขณะที่มองว่าแม้เศรษฐกิจไทยชะลอกระทบสินเชื่อบ้างแต่แบงก์ตั้งสำรองมากแล้วจึงไม่ค่อยรับผลกระทบมากเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น อย่างท่องเที่ยวและปิโตรเคมีที่ยังมี downside ขณะเดียวกันภาพสงครามการค้าจีน-สหรัฐยังกดดัน แนวโน้มวันพรุ่งนี้ตลาดซึมไร้ปัจจัยใหม่ ให้แนวรับ 1,130 จุด แนวต้าน 1,155 จุด

⛽️ น้ำมัน WTI

$ 64.68 +2.21 (+3.54%)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 3% ในวันพฤหัสบดี (17 เม.ย.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า สหรัฐฯ และสหภาพยุโรป (EU) จะบรรลุข้อตกลงการค้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกจะเผชิญภาวะตึงตัว หลังจากสหรัฐฯ ออกมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ที่มุ่งเป้าไปที่การส่งออกน้ำมันของอิหร่าน

🪙 Gold

$ 3,328.40 -0.18 (-0.54%)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (17 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นอกจากนี้ ข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่น ยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

Source: CNBC , IQ