สรุปข่าวเช้านี้ 4 กรกฎาคม 2568

🗽 US

Dow Jones +344.11 จุด (+0.77%)

S&P 500 +51.93 จุด (+0.83%)

NASDAQ +207.97 จุด (+1.02%)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกกว่า 300 จุดในวันพฤหัสบดี (3 ก.ค.) ขณะที่ดัชนี S&P500 และ Nasdaq ยังคงปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนขานรับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐฯ นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ส่งผลให้มูลค่าตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) ของบริษัทพุ่งขึ้นใกล้แตะระดับ 4 ล้านล้านดอลลาร์

EURO

EURO STOXX 600 +2.55 จุด (+0.47%)

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพฤหัสบดี (3 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนขานรับตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาด โดยหุ้นกลุ่มธนาคารนำตลาดปรับตัวขึ้น ขณะเดียวกันตลาดยังให้ความสนใจกับความคืบหน้าของข้อตกลงการค้าระหว่างสหภาพยุโรปกับสหรัฐฯ

JAPAN

NIKKEI 225 +23.42 จุด (+0.06%)

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวพลิกปิดบวกเล็กน้อยวันนี้ (3 ก.ค.) หลังจากการซื้อขายที่ค่อนข้างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่เลือกที่จะชะลอการลงทุนเพื่อรอดูการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ

SOUTH KOREA

KOSPI +41.21 จุด (+1.34%)

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดพุ่งขึ้นในวันนี้ (3 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมเหล็ก หลังนักลงทุนตอบรับเชิงบวกต่อข่าวความคืบหน้าในการแก้ไขพระราชบัญญัติการค้าเพื่อคุ้มครองสิทธิผู้ถือหุ้น รวมถึงความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ

CHINA

Shanghai Composite +6.36 จุด (+0.18%)

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดบวกในวันนี้ (3 ก.ค.) โดยได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่าสหรัฐฯ ได้ผ่อนปรนมาตรการจำกัดการส่งออกซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการออกแบบชิปไปยังประเทศจีน

Hong Kong

Hang Seng -151.47 จุด (-0.63%)

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดลบในวันนี้ (3 ก.ค.) หลังภาคบริการจีนเดือนมิ.ย.โตช้าสุดในรอบ 9 เดือน ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลแรงงานของสหรัฐฯ ที่จะมีการเปิดเผยในคืนนี้

INDIA

S&P BSE Sensex -170.22 จุด (-0.20%)

ดัชนี Sensex ตลาดหุ้นอินเดียร่วงลงกว่า 100 จุด ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน โดยดัชนีปรับตัวในแดนบวก ก่อนที่จะร่วงลงจากแรงเทขายของนักลงทุนในช่วงท้ายตลาด

VIETNAM

VN -1.56 จุด (-0.11%)

THAILAND

SET +11.52 จุด (+1.03%)

SET ปิดวันนี้ที่ 1,127.21 จุด เพิ่มขึ้น 11.52 จุด (+1.03%) มูลค่าซื้อขาย 34,920.97 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นด้วยหุ้น DELTA เด้งตามหุ้นเทคสหรัฐ และรับแรงหนุนบางส่วนจากตลาดหุ้นภูมิภาคปิดบวก รวมถึงความคาดหวังเฟดลดดอกเบี้ยหลังตัวเลขการจ้างงานไม่ค่อยดี แต่ความไม่มั่นใจการเจรจาไทย-สหรัฐจะได้ข้อตกลงดีเท่าเวียดนามยังกดดัน แนวโน้มวันพรุ่งนี้ แนะติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯ และการเจรจาการค้า ให้กรอบแนวต้าน 1,142 จุด แนวรับ 1,112 จุด

นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นมาด้วยแรงหนุนจากหุ้น DELTA เป็นหลักมีผลต่อดัชนีราว 5 จุด แรงซื้อเข้ามาตามหุ้นเทคโนโลยีสหรัฐที่ปรับตัวขึ้นมา และถึงแม้ตลาดหุ้นไทยวันนี้ยังไม่มีประเด็นใหม่ ๆ ที่มีนัยสำคัญ แต่ก็อาจได้รับแรงหนุนบางส่วนจากตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ปิดบวก และความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ย หลังตัวเลขการจ้างงานออกมาไม่ค่อยดี

ขณะที่ยังมีปัจจัยกดดันจากความไม่มั่นใจว่าไทยจะสามารถหาข้อสรุปทางการค้ากับสหรัฐได้ดีเท่าเวียดนามที่ได้รับอัตราภาษี 20% เนื่องจากข้อเสนอการซื้อก๊าซและผลผลิตทางเกษตรจากสหรัฐอาจจะสู้ไม่ได้กับข้อเสนอของเวียดนามที่จะลดภาษีสินเค้านำเข้าสหรัฐเหลือ 0%

แนวโน้มวันพรุ่งนี้ แนะติดตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมิ.ย.ของสหรัฐฯ รวมถึงติดตามการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับไทย รวมถึงประเทศคู่ค้าอย่างใกล้ชิดต่อไป

ให้กรอบแนวต้าน 1,142 จุด และแนวรับ 1,112 จุด

⛽️ น้ำมัน WTI

67.00 ดอลลาร์/บาร์เรล -0.45 เซนต์ (-0.67%)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (3 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่ามาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ จะส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลง ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันอาทิตย์นี้ ท่ามกลางความวิตกกังวลว่าที่ประชุมจะมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในเดือนส.ค.

🪙 Gold

3,342.90 ดอลลาร์/ออนซ์ -16.80 ดอลลาร์ (-0.50%)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (3 ก.ค.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งอาจลดโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย

💵สกุลเงินดอลล่าร์

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (3 ก.ค.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เลื่อนเวลาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นเวลานานกว่าที่คาดการณ์ไว้

Source: CNBC , IQ