- 02-250-7907-9
- [email protected]
- จันทร์ - ศุกร์ / 8.30-17.00 น.
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูลการใช้งาน เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์ที่ดี หากคุณใช้งานเว็บไซต์ต่อ เราถือว่าคุณยอมรับการใช้งานคุกกี้ และนโยบายความเป็นส่วนตัว แต่ถ้าคุณไม่ต้องการให้ใช้คุกกี้ในการเก็บข้อมูล กรุณาคลิก รายละเอียดเพิ่มเติม
เมื่อท่านได้เข้าสู่เว็บไซต์ของเรา ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการเข้าสู่เว็ปไซต์ของท่าน จะถูกเก็บเอาไว้ในรูปแบบของคุกกี้ โดยนโยบายคุกกี้นี้จะอธิบายถึงความหมาย การทำงาน วัตถุประสงค์รวมถึงการลบ และการปฏิเสธการเก็บคุกกี้ เพื่อความเป็นส่วนตัวของท่านโดยการเข้าสู่เว็บไซต์นี้ ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตามนโยบายคุกกี้ ที่มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
คุกกี้ คือ ไฟล์เล็กๆเพื่อจัดเก็บข้อมูล โดยจะบันทึกลงไปในอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และ/หรือ เครื่องมือสื่อสารที่เข้าใช้งานของท่าน เช่น แท็บเล็ต, สมาร์ทโฟนผ่านทางเว็บเบราว์เซอร์ ในขณะที่ท่านเข้าสู่เว็บไซต์ของเรา โดยคุกกี้จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และ/หรือ เครื่องมือสื่อสารของท่านในกรณีดังต่อไปนี้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอาจถูกจัดเก็บ เพื่อใช้เพิ่มประสบการณ์การใช้งานบริการของเราทางออนไลน์ โดยจะจำเอกลักษณ์ของภาษา และปรับแต่งข้อมูลการใช้งานตามความต้องการของท่าน โดยการเก็บข้อมูลนี้ เพื่อเป็นการยืนยันคุณลักษณะเฉพาะตัว ข้อมูลความปลอดภัยของท่านรวมถึงสินค้า และบริการที่ท่านสนใจนอกจากนี้ คุกกี้ยังถูกใช้เพื่อวัดปริมาณการเข้าใช้งานบริการทางออนไลน์ การปรับเปลี่ยนเนื้อหาตามการใช้งานของท่านทั้งในก่อนหน้า และปัจจุบันหรือเพื่อวัตถุประสงค์ในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสบการณ์ และความพึงพอใจของท่าน โดยจะทำให้เราเข้าใจลักษณะการใช้งานเว็บไซต์ของท่านได้เร็ว และทำให้เว็บไซต์ของเราเข้าถึงได้ง่ายสะดวกยิ่งขึ้น บางกรณีเราจำเป็นต้องให้บุคคลที่สามดำเนินการ ซึ่งอาจจะต้องใช้อินเตอร์เน็ตโปรโตคอลแอดเดรส (IP Address) และคุกกี้เพื่อวิเคราะห์ทางสถิติ ตลอดจนเชื่อมโยงข้อมูล และประมวลผลตามวัตถุประสงค์ทางการตลาด
ประเภทของคุกกี้ | รายละเอียด | ตัวอย่าง |
---|---|---|
คุกกี้ประเภทจำเป็นถาวร | คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ประสบการณ์การใช้เว็บไซต์ของท่านเป็นไปอย่างต่อเนื่องเช่น การจดจำการเข้าสู่ระบบ, การจดจำข้อมูลที่ท่านให้ไว้บนเว็บไซต์ |
|
คุกกี้ประเภทการวิเคราะห์ และวัดผลการทำงาน | คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้เราสามารถวัดผลการทำงาน เช่นการประมวลจำนวนหน้าที่ท่านเข้าใช้งานจำนวนลักษณะเฉพาะของกลุ่มผู้ใช้งานนั้นๆ โดยข้อมูลดังกล่าวจะนำมาใช้ในการวิเคราะห์รูปแบบพฤติกรรมของผู้ใช้งาน |
|
คุกกี้เพื่อการโฆษณา | คุกกี้ประเภทนี้จะถูกบันทึกบนอุปกรณ์ของท่าน เพื่อเก็บข้อมูลการเข้าใช้งาน และลิงก์ที่ท่านได้เยี่ยมชม และติดตามนอกจากนี้คุกกี้จากบุคคลที่สาม อาจใช้ข้อมูลที่มีการส่งต่อข่าวสารในสื่อออนไลน์ และเนื้อหาที่จัดเก็บจากการให้บริการเพื่อเข้าใจความต้องการของผู้ใช้งาน โดยมีวัตถุประสงค์ในการปรับแต่งเว็บไซต์แคมเปญโฆษณา ให้เหมาะสมกับความสนใจของท่าน |
|
คุกกี้ประเภทการทำงาน | คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยอำนวยความสะดวก เมื่อท่านกลับเข้ามาใช้งานเว็บไซต์อีกครั้ง โดยเราจะใช้ข้อมูลเพื่อปรับแต่งเว็บไซต์ตามลักษณะการใช้งานของท่าน |
|
ท่านสามารถลบ และปฏิเสธการเก็บคุกกี้ได้ โดยศึกษาตามวิธีการที่ระบุในแต่ละเว็บเบราว์เซอร์ที่ท่านใช้งานอยู่ตามลิงก์ดังนี้ (ข้อมูล ณ วันที่ 12 พฤศจิกายน 2561)
นโยบายคุกกี้นี้อาจมีการปรับปรุงแก้ไขตามโอกาส เพื่อให้เป็นไปตามกฎระเบียบ ดังนั้นเราขอแนะนำให้ท่านตรวจสอบให้แน่ใจว่า ท่านได้เข้าใจการเปลี่ยนแปลงตามข้อกำหนดดังกล่าว
📰 สรุปข่าวเช้านี้ วันที่ 14 กรกฎาคม 2568📈 ตลาดการลงทุน วันที่ 11 กรกฎาคม 2568
🗽 USDow Jones -279.13 จุด (-0.63%)S&P 500 -20.71 จุด (-0.33%)NASDAQ -45.14 จุด (-0.22%)ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบในวันศุกร์ (11 ก.ค.) และหุ้นเมตา แพลตฟอร์มส์ (Meta Platforms) ถ่วงดัชนี S&P500 ลง หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินหน้าใช้นโยบายภาษีที่รุนแรงยิ่งขึ้นกับแคนาดา ซึ่งเพิ่มความไม่แน่นอนต่อทิศทางนโยบายการค้าของสหรัฐฯดัชนี S&P500 ปรับตัวลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อวันก่อน ขณะที่นักลงทุนมีความระมัดระวังในการซื้อขายมากขึ้น หลังจากที่ทรัมป์เรียกเก็บภาษี 50% กับบราซิล และสหภาพยุโรป (EU) กำลังเตรียมรับจดหมายจากทรัมป์ซึ่งอาจมีรายละเอียดเกี่ยวกับการเก็บภาษีรอบใหม่นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า วาทกรรมเรื่องภาษีที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกรณีของบราซิลและแคนาดาในสัปดาห์นี้ กำลังทำให้นักลงทุนวิตกมากขึ้น โดยก่อนหน้านี้ ตลาดเริ่มชินกับการไม่มีข่าวลบเรื่องภาษี แต่ตอนนี้ก็เหมือนถูกเตือนว่า ปัญหาเรื่องภาษียังไม่จบบรรดานักลงทุนจะเริ่มจับตาฤดูกาลรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 โดยเน้นผลกระทบจากนโยบายภาษีของทรัมป์ต่อบริษัทสหรัฐฯ ขนาดใหญ่ โดยในสัปดาห์หน้าจะมีบริษัทรายใหญ่ประกาศผลประกอบการ เช่น เจพีมอร์แกน (JPMorgan), เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน (Johnson & Johnson)นักวิเคราะห์คาดว่าโดยเฉลี่ยแล้ว บริษัทในดัชนี S&P500 จะมีกำไรเพิ่มขึ้น 5.7% เมื่อเทียบรายปี โดยข้อมูลจาก LSEG I/B/E/S ระบุว่า กลุ่มเทคโนโลยีจะเป็นกลุ่มที่มีกำไรเพิ่มขึ้นมากที่สุด ขณะที่กลุ่มพลังงาน, สินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐาน และสินค้าฟุ่มเฟือยจะมีกำไรลดลง
EUROEURO STOXX 600 -5.59 จุด (-1.01%)ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันศุกร์ (11 ก.ค.) โดยหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเฮลท์แคร์ถ่วงตลาดลงในช่วงปลายสัปดาห์ที่ได้รับผลกระทบจากการประกาศเก็บภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน สหภาพยุโรป (EU) ยังรอจดหมายแจ้งจากทรัมป์เกี่ยวกับมาตรการภาษี
JAPANNIKKEI 225 -76.68 จุด (-0.19%)ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดลบในวันนี้ (11 ก.ค.) โดยแรงซื้อหุ้นกลุ่มส่งออกที่ได้อานิสงส์จากการอ่อนค่าของเงินเยน ได้ถูกหักล้างด้วยแรงขายหุ้นของบริษัทขนาดใหญ่ในตลาดอย่าง ฟาสต์ รีเทลลิ่ง (Fast Retailing) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการทำกำไรที่ลดลงของแบรนด์ยูนิโคล่ (Uniqlo) ในญี่ปุ่น
SOUTH KOREAKOSPI -7.46 จุด (-0.23%)ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดลบในวันนี้ (11 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติเทขายหุ้นเพื่อทำกำไร หลังตลาดปรับตัวขึ้น 4 วันติดต่อกัน
CHINAShanghai Composite +0.50 จุด (+0.01%)ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดแทบไม่ขยับในวันนี้ (11 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนรอดูการเปิดเผยข้อมูลการค้าของจีนในช่วงสุดสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจภายในประเทศ
Hong KongHang Seng +111.20 จุด (+0.46%)ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดบวกในวันนี้ (11 ก.ค.) หลังจากที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของจีนร่วงลงมากที่สุดในรอบเกือบ 2 ปี ซึ่งสะท้อนว่าจีนมีความเสี่ยงสูงที่จะเผชิญกับภาวะเงินฝืด ส่งผลให้นักลงทุนมีความหวังว่าจีนอาจประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
INDIAS&P BSE Sensex -689.81 จุด (-0.83%)ดัชนี Sensex ตลาดหุ้นอินเดียร่วงลงกว่า 600 จุด ปรับตัวลงเป็นวันที่ 3 ขณะที่นักลงทุนวิตกต่อการที่สหรัฐเดินหน้าเรียกเก็บภาษีศุลกากรต่อประเทศคู่ค้า
VIETNAMVN +24.67 จุด (+1.57%)สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวระบุว่า รัฐบาลเวียดนามแสดงความประหลาดใจและผิดหวังต่อการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเรียกเก็บอัตราภาษีศุลกากรในอัตรา 20% ต่อเวียดนามเมื่อวันที่ 2 ก.ค. เนื่องจากเวียดนามคาดว่าจะได้รับอัตราภาษีที่ต่ำกว่าระดับดังกล่าว หลังจากที่เวียดนามยอมเปิดตลาดเสรีให้สหรัฐสามารถส่งออกสินค้าไปยังเวียดนามแบบปลอดภาษี (0%)
THAILANDSet +10.73 จุด (0.97%)SET ปิดวันนี้ที่ 1,121.13 จุด เพิ่มขึ้น 10.73 จุด (+0.97%) มูลค่าซื้อขาย 32,367.57 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยเด้งขึ้นตามภูมิภาคหลังหยุดทำการเมื่อวานนี้ แต่ยังไม่มีปัจจัยบวกมากนัก ท่ามกลางแรงกดดันมาตรการภาษีสหรัฐฯ แนวโน้มสัปดาห์หน้าแนะติดตามสถานการณ์การเจรจาการค้าเป็นหลัก เก็ง"ทรัมป์"แจ้งสถานะคู่ค้าเพิ่มเติม ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงนี้อาจไม่มีน้ำหนักมากนัก แต่ก็ยังต้องจับตาเศรษฐกิจจีน พร้อมให้แนวต้าน 1,155 จุด แนวรับ 1,105 จุด
⛽️ น้ำมัน WTI68.45 ดอลลาร์/บาร์เรล +1.88 ดอลลาร์ (+2.82%)สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% ในวันศุกร์ (11 ก.ค.) หลังสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ระบุว่าตลาดน้ำมันโลกตึงตัวมากเกินคาด ขณะที่นักลงทุนจับตานโยบายภาษีของสหรัฐฯ และความเป็นไปได้ในการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม
🪙 Gold3,364 ดอลลาร์/ออนซ์ +38.30 ดอลลาร์ (+1.15%)สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นมากกว่า 1% ในวันศุกร์ (11 ก.ค.) ขานรับแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีนำเข้ารอบใหม่ทองคำได้แรงหนุนหลังตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงลง โดยถูกกดดันจากการที่ทรัมป์เดินหน้าเก็บภาษีนำเข้าจากแคนาดา 35% เริ่มเดือนหน้า และเตรียมเก็บภาษีแบบครอบคลุม 1520% กับประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่ นอกจากนี้ ทรัมป์ยังประกาศในสัปดาห์นี้ว่าจะเก็บภาษีนำเข้าทองแดง 50% รวมถึงสินค้าอื่น ๆ จากบราซิลในอัตราเดียวกันนักวิเคราะห์กล่าวว่า ตอนนี้ตลาดกลับเข้าสู่ภาวะที่มีความไม่แน่นอนสูงอีกครั้ง และทองคำได้รับแรงหนุนจากการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
💵สกุลเงินดอลล่าร์ดอลลาร์แข็งค่าเทียบสกุลเงินหลัก ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตามาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของสหรัฐต่อประเทศคู่ค้า
Source: CNBC , IQ